“ฟลายอิ้ง ดัทช์แมน” ตำนานเรือปีศาจที่ต้องอยู่กลางทะเลชั่วนิรันดร์

Flying Dutchman (ฟลายอิ้ง ดัทช์แมน) เรือผี หรือเรือปีศาจ ที่ได้ไปโผล่อยู่ในสื่อต่างๆ ทั่วโลก ที่โด่งดังแบบสุดๆ ก็เห็นจะเป็นในภาพยนตร์เรื่อง Pirate of The Caribbean โดยเรือผีลำนี้ถูกกล่าวถึงครั้งแรกเมื่อปลายปี 1700 ในหนังสือ Voyage ซึ่งได้รับความนิยมในยุคนั้น และจากนั้นเป็นต้นมาตำนานของเรือปีศาจลำนี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วโลก

เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน (Flying Dutchman) หรือในภาษาดัทช์เรียกว่า De Vliegende Hollander เชื่อกันว่าเป็นเรือปีศาจที่จะร่อนเร่ไปตามน่านน้ำ จนกว่าจะถึงวันสิ้นสุดของโลก

มักจะมาปรากฏตัวให้ผู้คนได้เห็นบ่อยในบริเวณแหลมกู๊ด โฮป (Cape of Good Hope) ว่ากันว่าจะมีแสงเรืองที่น่ากลัวออกมาจากเรือและมีกัปตันเรือผู้ซึ่งแต่งกายแบบยุคสมัยเก่ายืนคุมเรืออยู่ พร้อมกับส่งเสียงอันโหยหวนน่าขนหัวลุกออกมา

แหลมกู๊ดโฮป บริเวณที่ผู้คนมักพบเจอเรือปีศาจ ฟลายอิ้ง ดัทช์แมน

โดยต้นกำเนิดตำนาน เล่าว่า เมื่อสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 เรือ Flying Dutchman เป็นของ Dutch East India Company เป็นเรือบรรทุกสินค้า และมีกัปตันชาวดัทช์ที่ชื่อ Van Der Decken ว่ากันว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจโหดเหี้ยม และเป็นคนไม่มีศาสนา ไม่นับถือพระเจ้า

กัปตันชาวดัทช์ที่ชื่อ Van Der Decken

ในปี 1680 กัปตัน Van Der Decken ได้พาเรือ Flying Dutchman ของเขา พร้อมลูกเรือไปยังดินแดนทางฝั่งตะวันออก และในขณะที่เขากำลังพาเรือกลับไปยังประเทศฮอลแลนด์นั้น ได้เกิดพายุพัดกระหน่ำรุนแรง

กัปตันได้พยายามต่อสู้กับพายุที่บ้าคลั่งอยู่นานเป็นชั่วโมง จนพายุได้พัดเรือของเขาออกนอกเส้นทางไป และได้ไปชนกับหินโสโครก จึงทำให้ตัวกัปตันและลูกเรือของเขาจมสู่ก้นมหาสมุทรและเสียชีวิตทั้งหมด

ทุกคนเชื่อว่าพายุลูกนั้นเกิดจากการที่พระเจ้าได้พิพากษาลงโทษกัปตัน Van Der Decken และเรือลำนั้น เล่ากันว่าระหว่างที่กัปตันกำลังพยายามต่อสู้กับพายุอยู่นั้น เขาได้ตะโกนออกมาว่า…

“I will round this Cape even if I have to keep sailing until doomsday!” แปลว่า “ข้าจะวนเวียนอยู่บริเวณแหลมนี้ ถึงแม้ว่าข้าจะต้องล่องเรือจนถึงวันสิ้นสุดของโลกก็ตาม”

แม้ปัจจุบันเวลาจะผ่านมานานกว่า 300 ปีแล้วที่ชื่อของ เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน (Flying Dutchman) ยังถูกกล่าวถึงและบอกเล่าตำนานของมันต่อๆ กันมา ที่แม้ขนาดภาพยนตร์ดังอย่างเรื่อง Pirate of The Caribbean ยังนำชื่อของเรือปีศาจนี้ไปถ่ายทอดบนแผ่นฟิล์มให้คนยุคหลังได้เห็นภาพของความสยอง และกัปตันเรือผู้โหดเหี้ยม