นักโบราณคดีพบ “ลูกแวมไพร์” ในศตวรรษที่ 17 ข้อเท้าถูกล็อคอยู่ในสุสานของโปแลนด์

นักวิจัยขุดพบซากโครงกระดูกของ “ลูกแวมไพร์” ในสุสานที่โปแลนด์

“ลูกแวมไพร์” ถูกฝังคว่ำหน้าโดยมีแม่กุญแจรูปสามเหลี่ยมล็อคอยู่ที่ข้อเท้า

เทคนิคการฝังศพแบบนี้ คือการฝังศพแวมไพร์ ซึ่งถูกนำมาใช้ในยุโรปตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 (ปี 1301 – ปี 1400)

นักวิจัยได้ขุดพบซากของสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าเป็น “ลูกแวมไพร์” ในศตวรรษที่ 17 (ปี 1601 – ปี 1700) ซึ่งถูกฝังคว่ำหน้าและถูกล็อคไว้กับพื้นอย่างแน่นหนา เพื่อบรรเทาความกลัวของชาวบ้านว่า ถึงแม้ “ลูกแวมไพร์” จะฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมา ก็จะไม่สามารถกลับมาทำร้ายชาวบ้านได้

ซากโครงกระดูก “ลูกแวมไพร์” ที่พบมีอายุระหว่าง 5 ถึง 7 ปี ถูกพบอยู่ในสุสานในหมู่บ้านเปียน ประเทศโปแลนด์

คำว่า “สุสาน” แปลตามตัวอักษรจากภาษากรีกว่า “เมืองแห่งความตาย” ยังเป็นที่ที่นักโบราณคดีค้นพบซากโครงกระดูกของผู้หญิงที่เชื่อว่าเป็น “แวมไพร์” เมื่อปี 2022 อีกด้วย ซึ่งก็ถูกล็อคด้วยแม่กุญแจที่ข้อเท้าเช่นกัน อีกทั้งยังมีเคียวพาดอยู่ที่คอของเธอ มีความหมายว่า “หากฟื้นขึ้นมาจากความตายเธอจะหัวขาด”

ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดี Dariusz Poliński จากมหาวิทยาลัย Nicolaus Copernicus เป็นผู้นำการขุดทั้งสองแห่ง กล่าวว่า หลุมฝังศพทั้งสองถูกพบห่างจากกันเพียง 2 เมตรในสุสาน ซึ่งทีมงานของเขาเชื่อว่าเป็นสุสานชั่วคราวของ “ผู้ถูกกีดกัน” และผู้ที่ไม่ได้รับการต้อนรับของชาวคริสต์ด้วยเหตุผลบางอย่าง

Poliński กล่าวต่อว่า เขาและนักวิจัยได้พบหลุมฝังศพประมาณ 100 หลุมในสุสาน หลายแห่งมีเทคนิคการฝังศพที่ผิดปกติ บางหลุมมีเทคนิคแบบ “การฝังศพแวมไพร์” โดยใช้แม่กุญแจรูปสามเหลี่ยมล็อคเอาไว้กับข้อเท้าและล่ามไว้กับพื้น เพื่อป้องกันว่าหากฟื้นจากความตายขึ้นมาได้ ศพเหล่านี้ก็จะไม่สามารถหลุดจากพันธนาการไปทำร้ายผู้คนในหมู่บ้านได้

เครดิต businessinsider.com