14 เกร็ดความรู้น่าสนใจจากทั่วโลก

มีคนพูดว่าโลกเรานั้นเปรียบเสมือนหนังสือเล่มใหญ่ที่รอการเปิดอ่าน วันนี้เรามีความรู้รอบตัวดีๆ ซึ่งแน่นอนว่าจะพาทุกคนไปเปิดหูเปิดตาถึงความจริงในช่วงเวลาประวัติศาสตร์และเรื่องราวเกี่ยวกับโลก และนี่คือ 14 เกร็ดความรู้น่าสนใจจากทั่วโลก ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลย

#1 เรามักจะคิดว่าแมมมอธเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์มากๆ แต่รู้ไหมตอนที่แมมมอธตัวสุดท้ายยังมีชีวิตอยู่ มหาพีระมิดในประเทศอียิปต์ได้ถูกสร้างขึ้นและมีอายุถึง 1,000 ปีแล้วล่ะ

#2 อาจฟังดูไม่น่าเชื่อแต่คลีโอพัตรามีชีวิตอยู่ใกล้กับช่วงที่ iPhone ถือกำเนิด มากกว่าตอนที่มหาปิรามิดถูกสร้างขึ้นเสียอีก

#3 เวลาเราเห็นภาพพีระมิด เราจะรู้สึกเหมือนมันตั้งอยู่กลางทะเลทรายแสนโดดเดี่ยว และห่างไกล

แต่ที่จริงแล้วพีระมิดอยู่ใกล้กับเมืองกิซ่าแค่นี้เอง

ที่พักหลายๆ แห่งมีวิวพีระมิดให้ผู้เข้าพักได้ชมกันแบบนี้เลย

#4 ในช่วงยุคกลางที่การแพทย์ยังไม่พัฒนานัก มีคนถูกฝังทั้งเป็นอยู่เยอะมาก (เพราะแพทย์คิดว่าตายแล้ว) เลยมีการคิดค้นหลุมฝังศพแบบนี้ เผื่อผู้ที่ถูกฝังยังไม่เสียชีวิตจะได้ส่งเสียงเรียกคนมาช่วยได้

#5 ในอดีตทั้งข้าทาสบริวาร นางสนม และสัตว์เลี้ยงจะถูกฝังไปพร้อมๆ กับฟาโรห์ของอียิปต์

#6 มีข้อมูลพบว่าชาวโรมันมักจะใช้ฉี่ในการบ้วนปากในตอนเช้าเสมอ เนื่องจากสามารถช่วยดับกลิ่นปากแถมทำให้ฟันขาวขึ้น

#7 จักรพรรดิจูเลียสซีซาร์เคยสถาปนาม้าสุดเลิฟของเขาให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาแห่งโรม

#8 ไอน์สไตน์เคยได้รับการเสนอให้ไปเป็นรองประธานาธิบดีของประเทศอิสราเอล แต่เขาปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว

#9 คิง จอง อิล อดีตผู้นำเกาหลีเหนือ เคยประพันธ์ละครโอเปร่าไว้กว่า 6 เรื่อง

#10 ตัวเลขฮินดูอารบิก ชื่อเป็นอาหรับใช่ไหม แต่ตัวเลขดังกล่าวถูกคิดค้นโดยนักคณิตศาสตร์ชาวอินเดียกลุ่มหนึ่งไม่ทราบชื่อ แต่นักคณิตศาสตร์ชาวอียิปต์และอาหรับนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา

#11 ชาวอิยิปต์โบราณใช้ก้อนหินเป็นหมอน

#12 นี่คือสภาพฟันที่แท้จริงของมนุษย์ ภาพนี้คือฟันของเด็กที่ยังไม่มีฟันแท้จะเห็นได้ว่ามีฟันน้ำนมซ่อนอยู่

#13 เราเชื่อกันมาตลอดว่ามาริโอ้กระโดดเอาหัวโหม่งอิฐและสิ่งต่างๆ ที่จริงแล้วมาริโอ้ไม่ได้โหม่งอย่างที่เราเข้าใจกันหรอกนะ เขาใช้หมัดต่างหาก (เด็กรุ่นใหม่จะรู้จักมาริโอ้ไหมนะ)

ซูมให้ดูกันชัดๆ

#14 โลก หรือ Earth เป็นดาวเคราห์ในระบบสุริยะเพียงดวงเดียวที่ไม่ได้ตั้งชื่อตามเทพเจ้า เหตุเพราะดวงดาวส่วนมาก (ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า) ถูกพบในสมัยโรมัน จึงได้ชื่อตามเทพเจ้าทั้ง Mercury, Venus, Mars, Jupiter และ Saturn นั่นเอง