9 สถานที่แปลกและสวยงามจากทั่วโลก ที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจ

วันนี้เราจะพาไปชมเรื่องราวของสถานที่แปลกจากทั่วทุกมุมโลก ทุกที่จะมีลักษณะพิเศษ สวยงาม แปลกตา และที่สำคัญมันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และนี่คือ 9 สถานที่แปลกและสวยงามจากทั่วโลก ที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

#1 ถ้ำน้ำแข็งไอส์รีเซนเวลต์ (Eisriesenwelt Ice Caves) ประเทศออสเตรีย

ถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้เป็น ถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยถ้ำมีความยาวรวมกว่า 42 กิโลเมตร (แต่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมแค่กิโลเมตรแรก)

ถ้ำแห่งนี้ค้นพบครั้งแรกในปี 1879 ที่สมัยนั้นคนในท้องถิ่นรู้จักมันในฐานะทางเข้าสู่นรกและไม่กล้าที่จะเข้าไปข้างใน ลักษณะข้างในถ้ำเป็นเหมือนภูเขาที่อยู่ในถ้ำและจะมีน้ำแข็งเกาะ หินงอก เต็มไปหมดเหมือนโลกต่างมิติยังไงอย่างงั้นจนไม่เชื่อว่านี้ นี่คือฝีมือของธรรมชาติ

#2 ถ้ำคริสตัล (Crystal Cave) ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

ถ้ำคริสตัล เป็น 1 ใน 240 ถ้ำ (ที่ถูกค้นพบ) ภายในอุทยานแห่งชาติ Sequoia ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ถ้ำดังกล่าวเป็นถ้ำหินอ่อนธรรมชาติ ที่ภายในมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 9 องศาเซลเซียส ซึ่งการจะเข้าไปชมภายในถ้ำต้องอาศัยไกด์ทัวร์เป็นผู้นำทางเท่านั้น

#3 ทุ่งหินรูปรังผึ้ง Bungle Bungles ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย

ทุ่งหินทรายที่มีรูปทรงคล้ายรังผึ้ง หรือ Bungle Bungles นี้ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Purnululu ที่องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1987 กลุ่มหินดังกล่าวประกอบด้วยหินทรายและหินกรวดมน

#4 ดินแดนโบราณ คัปปาโดเกีย (Cappadocia) ประเทศตุรกี

คัปปาโดเกีย ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 (พ.ศ. 2528) ดินแดนดังกล่าวมีภูมิประเทศที่แปลกตาซึ่งเกิดจากจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่

เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน ได้เป็นตัวแปรที่ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่างๆ ที่งดงาม บางส่วนมีประชาชนอาศัยอยู่ภายใน

#5 ทะเล (สาป) เดือด Boiling Lake ประเทศโดมินิกา (Commonwealth of Dominica)

Boiling Lake เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากทะเลสาป Frying Pan Lake ของประเทศนิวซีแลนด์) มีความกว้างราว 60 เมตร ลึก 59 เมตร อุณหภูมิริมทะเลสาปอยู่ที่ประมาณ 82 – 91.5 องศาเซลเซียส ระดับน้ำภายในทะเลสาปแห่งนี้มีลักษณะขึ้น-ลงตลอดเวลา

#6 แม่น้ำสีแดง (Rio Tinto) ที่ประเทศสเปน

บริเวณพื้นที่ตามแนวชายฝั่งแม่น้ำ Rio Tinto มีการทำเหมืองทองแดง เงิน ทอง และแร่ธาตุอื่นๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณ (ราว 5 พันปีก่อน) ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำดังกล่าวมีค่าความเป็นกรดสูงมาก

ส่วนสาเหตุที่น้ำมีสีแดงก็เนื่องมาจากก้อนหินที่อยู่ในแม่น้ำแห่งนี้ประกอบด้วยธาตุเหล็กในปริมาณเข้มข้นนั่นเอง เเม่น้ำเเห่งนี้ได้รับความสนใจต่อนักวิทยาศาสตร์มาก เนื่องจากเเบคทีเรีย ในน้ำมีกรดสูงซึ่ง นาซ่าได้เปรียบเทียบสภาพเเม่น้ำนี้ว่าเหมือน ดาวพฤหัส เเละ ดวงจันทร์ยูโทปา

#7 หุบเขาโลกพระจันทร์ (Vale de Lua) ที่ประเทศบราซิล

หุบเขาโลกพระจันทร์ หรือ the valley of the moon เป็นที่ราบสูงโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1.8 พันล้านปี โดยพื้นที่ว่างระหว่างก้อนหินจะมีน้ำจากแม่น้ำ San Miguel แทรกอยู่ภายในดินแดนประหลาดแถบนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chapada dos Veadeiros ซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001

#8 ริแชท แห่งมอริเตเนีย The Richat Structure (มอริเตเนีย)

ริแชท แห่งมอริเตเนีย เป็นภูมิประเทศประหลาดในทะเลทรายซาทาร่า ได้รับความสนใจจากทั่วโลกเนื่องจากมีลักษณะดินที่แปลกตางดงามที่เรียกโครง สร้างนี้ว่า Richat Structure เป็นวงกลมขนาดใหญ่รัศมีของมันกว้างถึง 50 กิโลเมตร สามารถมองเห็นทั้งหมดได้จากทางอวกาศ (รวมไปถึงภาพถ่ายดาวเทียม) ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดโครงสร้างแบบนี้ยังคงลึกลับ บ้างก็ว่าเกิดจากผลกระทบของอุกาบาตพุ่งชนจนเกิดเป็นคลื่นที่มีรัศมีกว้าง หรืออาจเกิดจากการยกตัวและการกัดกร่อนของหิน

#9 ถ้ำผลึกยักษ์ (Crystal Cave of Giants) ในประเทศเม็กซิโก

ถ้ำหินปูนและคริสทัลที่ทอประกายระยิบระยับแห่งนี้ถูกค้นพบเมื่อปี 2000 โดยพี่น้องคู่หนึ่งที่ขุดเจาะลึกลงไปใต้ดินเกือบ 300 เมตรในเหมืองไนย์กา ในประเทศเม็กซิโก ผลึกแร่ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่นี้มีความยาวผลึกมากถึง 11 เมตร ประกอบไปด้วยเซเลไนต์ (selenite) ซึ่งเป็นรูปผลึกหนึ่งของแร่ยิปซัม (gypsum) ที่มีลักษณะโปร่งใส