โดยทั่วไปความสามารถทางร่างกายและระดับสติปัญญาของคนเราจะมีขีดจำกัด แต่นักจิตวิทยาเชื่อว่าสมองของเราสามารถควบคุมขีดจำกัดนั้นได้ ด้วยเหตุนี้บางคนในโลกนี้จึงได้เอาชนะข้อจำกัดเหล่านั้นได้ และพิสูจน์ให้เห็นว่ามันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาและไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ หากเรามุ่งมั่นที่จะทำ และนี่คือ 9 ผู้คนที่สามารถเอาชนะขีดจำกัดของมนุษย์ได้อย่างน่าประหลาด ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
#1 Concetta Antico มองเห็นสีมากกว่าคนทั่วไปถึง 100 เท่า
เตตราโครมาซี (Tetrachromacy) คือภาวะที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของยีนที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาของจอตา สายตายของคนปกติจะมองเห็นสีมากที่สุดอาจไม่เกิน 1 ล้านสี แต่ Antico สามารถแยกได้ถึง 100 ล้านสี
ประชากรของโลกที่มีภาวะเตตราโครมาซี คาดว่ามีเพียง 1% เท่านั้น Antico มีแกลเลอรีของตัวเองในซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่่งเต็มไปด้วยภาพวาดสีสันสดใสและมีชีวิตชีวา นอกจากนี้เธอยังหวังที่จะพัฒนาระบบการฝึกอบรมที่สามารถช่วยให้คนที่มีภาวะเตตราโครมาซีตระหนักถึงศักยภาพของตัวเอง
#2 George Dantzig แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้โดยบังเอิญ
George Dantzig เป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย University of California เขาเข้ามาเรียนวิชาสถิติสาย เมื่อเขามาถึงห้องเรียนก็ไม่พบใครอยู่แล้ว เขาพบทฤษฎีทางสถิติ 2 ข้อเขียนอยู่บนกระดานดำและเข้าใจผิดว่าเป็นการบ้านที่อาจารย์ให้ทำ
เมื่อกลับบ้านเขาพยายามแก้โจทย์ปัญหานั้นอย่างตั้งใจ โดยไม่รู้ว่ามันเป็นโจทย์ที่ไม่สามารถแก้ได้ และสุดท้ายเขากลับแก้มันได้ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ของเขา
#3 Jason Padgett กลายเป็นอัจฉริยภาพด้านคณิตศาสตร์หลังได้รับบาดเจ็บในสมอง
ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บ Jason เป็นพนักงานขายเฟอร์นิเจอร์ แต่หลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน เมื่อรักษาจนหายดีเขาก็ได้รับความสามารถในการมองเห็นวัตถุทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนและแนวคิดฟิสิกส์
นักวิทยาศาสตร์บอกว่า Jason เป็นกลุ่มตัวอย่างของผู้ป่วยโรคอัจฉริยะ (Savant Syndrome) ที่หายากมาก โดยเขาอาจจะได้รับความสามารถที่ผิดปกติหลังจาเป็นโรคร้ายแรงหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส
#4 Reinhold Messner เป็นคนแรกที่ปีนเขาเอเวอร์เรสต์โดยไม่ใช้ถังออกซิเจน
Reinhold Messner เป็นเจ้าของสถิติมากมาย เขาเป็นคนแรกที่ปีนภูเขากว่า 8,000 เมตร โดยไม่ใช้ถังออกซิเจนในปี 1978 ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เขากลับทำได้ และยังเป็นคนแรกที่พิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสเพียงลำพัง
อันตรายจากการปีนเขาที่มีระดับความสูงมากๆ โดยไม่ใช้ออกซิเจนเพิ่มนั้น คือ ทำให้ร่างกายถูกบังคับให้ทำงานเกินเวลา เป็นผลให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงมากขึ้น เลือดไหวเวียนช้า และหลอดเลือดมีแนวโน้มที่จะตัน
#5 Jure Robic เป็นผู้ชนะ 5 ครั้งติด ในการแข่งขันปั่นจักรยานระยะทาง 4,800 กิโลเมตร
นักปั่นจักรยานชาวสโลวีเนียคนนี้เป็นเจ้าของสถิติการปั่นจักรยาน 834.77 กิโลเมตร โดยไม่หยุด และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่มีความอดทนสูง เพราะเขานอนแค่คืนละ 1 ในชั่วโมง ในระหว่างสัปดาห์การแข่งขัน
นักวิทยาศาสตร์บอกว่าความลับของความอดทนพิเศษนี้คือ Jure ปฏิเสธการสั่งการของสมองเกี่ยวกับความเมื่อยล้าและฟังเฉพาะการตัดสินใจของตัวเองว่าจะพักเมื่อไหร่ กินเมื่อไหร่ และจะไปสู่เป้าหมายให้เร็วที่สุดยังไง
#6 Herbert Nitsch สามารถดำน้ำลึกถึง 253 เมตร
นักประดาน้ำชาวออสเตรีย Herbert Nitsch ได้สร้างสถิติโลกที่น่าประทับใจถึง 33 ครั้ง หนึ่งในสถิติที่น่าทึ่งที่สุดคือ การดำน้ำลึก 253.2 เมตร
ในระหว่างการดำน้ำในความลึกดังกลาวนี้ เขาเผลอหลับไปชั่วครู่หนึ่ง เนื่องจากไนโตรเจนทำให้เกิดความง่วง ผลของเหตุการณ์นั้นทำให้เขาบาดเจ็บจากการบีบอัดอย่างรุนแรง จนต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน หลายปีต่อมา Herbert กลับเข้าสู่วงการดำน้ำอีกครั้ง
#7 Chul Soon จากคนที่น้ำหนักแค่ 56 กิโลกรัม สู่การเป็นอาร์โนลด์แห่งเอเชีย
Chul Soon จำได้ว่าตอนที่เขาอายุ 20 ปีเขาชั่งน้ำหนักได้แค่ 56 กิโลกรัม และมักถูกกลั่นแกล้งเพราะเป็นคนผอมแห้ง
เขาตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองเมื่อ 12 ปีก่อน และเริ่มออกกำลังกายด้วยการลุกนั่ง 3,000 ครั้งต่อวัน นอกจากนี้เขายังเลือกทานอาหาร ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นนักเพาะกายที่โด่งดังที่สุดในเกาหลี
#8 Randy Gardner ไม่นอนเป็นเวลา 11 วัน
ในปี 1964 Randy Gardner วัย 17 ปี ใช้เวลาอยู่กับงานวิทยาศาสตร์นาน 11 วัน 25 นาที โดยไม่หลับเลย ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวได้มีการทดสอบ ความรู้ความเข้าใจ ประสาทสัมผัส และความสามารถทางกายภาพของเขา
วันสุดท้ายของการทดสอบ Gardner ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าว และพูดโดยไม่มีสะดุดเลย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากและเมื่อการทดสอบสิ้นสุดลง เขาไม่แสดงอาการของการอดหลับ 11 วันออกมาให้เห็นเลย
#9 ดร. Katsioulis ผู้มี IQ 198
Evangelos Katsioulis เป็นจิตแพทย์และนักจิตบำบัดชาวกรีก และเป็นผู้ก่อตั้ง World Intelligence Network ซึ่งเป็นสังคมคนที่มีความฉลาดเป็นเลิศ โดยปกติแล้ว ค่าเฉลี่ยในการทดสอบ IQ คือ 100 และคนส่วนใหญ่จะมี IQ อยู่ระหว่าง 85 และ 114 แต่ของ Evangelos อยู่ที่ 198
Evangelos บอกว่าเขาเชื่อในพลังจิตมนุษย์ เขาหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ผู้คนแสดงพลังของจิต ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ทำให้มีการเกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับการศึกษาโดยการเห็นถึงศักยภาพของผู้คน
เครดิต brightside.me