หนึ่งในสมบัติสำคัญของ American Museum of Natural History คือหินนอกโลกขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Willamette Meteorite (อุกกาบาตวิลลาเมตต์) ด้วยน้ำหนัก 15.5 ตัน จึงถือได้ว่าเป็นอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบในสหรัฐอเมริกา และใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก
การก่อกำเนิด
อุกกาบาตวิลลาเมตต์ประกอบด้วยเหล็กและนิกเกิล และเช่นเดียวกับอุกกาบาตเหล็กอื่นๆ มันก่อตัวขึ้นเมื่อหลายพันล้านปีก่อน
แต่เดิมมันคือดาวเคราะห์ ที่เกิดจากแรงโน้มถ่วงทำให้อนุภาคฝุ่นเกิดการรวมตัวกันจนเกิดเป็นดาวเคราะห์ โดยโลหะที่หนักกว่า เช่น เหล็กและนิเกิลจะสร้างแกนกลาง ในเวลาต่อมาดาวเคราะห์ดวงนี้ก็ได้ชนกับดาวเคราะห์ดวงอื่น “ทำให้มันแตก” ส่งเศษหินที่อุดมด้วยธาตุเหล็กและนิเกิลออกไปสู่อวกาศ
ชิ้นส่วนของดาวเคราะห์ (ที่แตกออก) ยังคงโคจรรอบดวงอาทิตย์ต่อไปอีกหลายพันล้านปี จนกระทั่งเมื่อประมาณ 17,000 ปีที่แล้ว เมื่อวงโคจรของโลกและหินก้อนหนึ่ง (อุกกาบาตวิลลาเมตต์) ได้โคจรมาตัดกันพอดี
อุกกาบาตวิลลาเมตต์จึงได้พุ่งชนโลกด้วยความเร็วมากกว่า 64,000 กม./ชม. ณ ที่ใดที่หนึ่งทางตะวันตกของแคนาดา
การเดินทางของอุกกาบาตวิลลาเมตต์
อุกกาบาตวิลลาเมตต์ถูกแช่อยู่ในน้ำแข็ง และตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ธารน้ำแข็งที่เคลื่อนที่อย่างช้าๆ ได้เคลื่อนย้ายอุกกาบาตไปยังแม่น้ำโคลัมเบียจนกระทั่งน้ำแข็งละลาย และอุกกาบาตจมลงสู่ก้นแม่น้ำใกล้กับเมืองพอร์ตแลนด์ในยุคปัจจุบัน
ในตอนท้ายของยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย ขณะที่น้ำลดลง อุกกาบาตก็สัมผัสกับธาตุต่างๆ เป็นเวลาหลายพันปี น้ำฝนที่ผสมกับเหล็กซัลไฟด์ในอุกกาบาตได้ผลิตกรดซัลฟิวริก ซึ่งค่อยๆ ละลายส่วนของหินทำให้เกิดโพรงบนพื้นผิวอย่างที่เห็น
อุกกาบาตถูกค้นพบครั้งแรก
อุกกาบาตวิลลาเมตต์ถูกพบโดยชาว Clackamas Chinook (ชนพื้นเมือง) ซึ่งอาศัยอยู่ในหุบเขาวิลลาเมตต์ รัฐโอเรกอน ก่อนที่ชาวยุโรปจะมาถึง
Clackamas ตั้งชื่ออุกกาบาตว่า “Tomanowos” โดยเชื่อว่าหินเป็นตัวแทนของ Sky People (คนจากฟ้า) และเป็นตัวอย่างของการรวมเป็นหนึ่งระหว่างท้องฟ้า ดิน และน้ำ
สำหรับ Clackamas แล้ว Tomanowos เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พวกเขานับถือมันเป็นจิตวิญญาณที่มีพลังในการรักษาและเสริมพลังให้กับผู้คนในหุบเขา พวกเขาใช้หินในพิธีต่างๆ โดยใช้น้ำที่สะสมอยู่ในรอยแยกของอุกกาบาตเพื่อชำระล้างและทำให้ตัวเองบริสุทธิ์
ปัจจุบัน
อุกกาบาตวิลลาเมตต์ยังคงจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ และเมื่อในปี 1999 สมาพันธ์ของชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกัน เรียกร้องให้ส่ง Tomanowos อันเป็นที่เคารพคืนให้แก่พวกเขา มีการยื่นฟ้องต่อพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอเมริกัน
ต่อมาได้บรรลุข้อตกลง โดยสมาชิกชนเผ่าจะได้รับอนุญาตให้ทำพิธีกรรมรอบอุกกาบาตปีละครั้ง โดยที่อุกกาบาตยังคงถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ American Museum of Natural History
เครดิต amusingplanet.com
