บนโลกแห่งนี้มีสถานที่ที่ทั้งแปลกและมหัศจรรย์มากมาย ซึ่งบ้างก็ถูกค้นพบแล้ว บ้างก็ยังรอให้เราค้นพบอยู่ และวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งสถานที่ที่มีเรื่องราวแปลกๆ มาให้ได้อ่านกัน นั่นคือสถานที่แห่งหนึ่งที่มีการ “สืบเชื้อสาย” มาจากชายคนเดียวเมื่อราว 150 ปีก่อน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปอ่านกันเลย
สถานที่แห่งนี้คือเกาะพัลเมอร์สตัน
เกาะที่มีแนวปะการังรูปเกือกม้าหนึ่งในหมู่เกาะคุก เขตปกครองตนเองของประเทศนิวซีแลนด์ เกาะแห่งนี้ถือว่าเป็นเกาะที่ประชากรในเกาะใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์แบบสุดๆ ซึ่งบนเกาะจะมีประชากรอยู่เพียง 62 คนเท่านั้น และที่ประหลาดก็คือทุกคนบนเกาะล้วนเป็นลูกหลานของชายคนเดียวกันโดยดำเนินวิถีชีวิตแบบนี้มากว่า 150 ปีแล้ว
หมู่เกาะดังกล่าวเป็นหนึ่งในผลงานการค้นพบของ James Cook นักเดินเรือชาวอังกฤษชื่อดัง ในตอนที่ค้นพบเกาะ พบว่าไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่มานานแล้ว
ต่อมาในช่วงกลางยุค 1800
มีชาวอังกฤษนามว่า William Marsters ได้เดินทางมายังเกาะดังกล่าว และตกหลุมรักสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก แต่ ณ เวลานั้นเกาะพัลเมอร์สตัน มีเจ้าของคือพ่อค้าชาวอังกฤษชื่อว่า John Brander
ทั้งคู่เคยพบกันมาก่อนในตาฮีตี นาย John เลยแต่งตั้งให้นาย William เป็นผู้ดูแลเกาะ และยอมให้ปลูกต้นมะพร้าวบนเกาะได้ ซึ่ง William ย้ายเข้าไปอยู่อาศัยพร้อมกับภรรยาและญาติภรรยาอีก 2 คน (ภายหลังเขาแต่งงานกับญาติภรรยาด้วย)
นาย William Marsters
การใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะแห่งนี้
โดยปกติแล้วจะมีเรือเข้ามาแลกเปลี่ยนสินค้าไม่ว่าจะเป็นอาหารและของใช้อื่นๆ ปีละแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งทาง William จะให้น้ำมันมะพร้าวแก่พวกเขาเป็นของแลกเปลี่ยน แต่พอนานวันเข้า ผู้ที่เข้ามายังเกาะก็ค่อยๆ ลดลง จนในที่สุดก็ไม่มีใครเข้ามาอีก
หลายปีผ่านไป John Brander เจ้าของเกาะได้ตายลง William จึงได้รับเกาะพัลเมอร์สเตอร์มาครอบครองจากคำสั่งของราชินี Victoria ต่อมาในปี 1899 William Marsters ก็เสียชีวิตจากการขาดสารอาหาร เขาได้แบ่งเกาะออกเป็น 3 ส่วนแต่ละส่วนสำหรับภรรยาของเขาแต่ละคน เมื่อเวลาผ่านไปประชากรก็เพิ่มขึ้นและทุกวันนี้ผู้อยู่อาศัยบนเกาะทั้งหมดเป็นทายาทสายตรงของเขา
เมื่อเวลาผ่านไป
จากเกาะที่เคยมีคนอยู่ประมาณ 300 คน ในช่วงยุค 1950 – 1970 ก็ค่อยๆ ลดลงจนเหลือ 62 คนในปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในเหตุผลก็คือคนรุ่นใหม่มักอยากออกไปใช้ชีวิตนอกเกาะมากกว่า
แม้ว่าหมู่เกาะนี้จะอยู่ห่างไกลผืนแผ่นดินใหญ่มาก แต่บนเกาะก็ไม่ได้ล้าหลังมากนัก เพราะมีทั้งไฟฟ้า โทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต แถมผู้คนก็มีงานอดิเรกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทำเครื่องประดับ เล่นวอลเลย์บอลหรือว่ายน้ำ
แต่อย่างไรก็ตามบนเกาะนี้ไม่มีร้านค้าใดๆ เปิดกิจการ เพราะบนเกาะจะไม่ใช้เงินสดกัน ซึ่งพวกเขาจะใช้เงินสดเฉพาะตอนที่ต้องซื้อของจากโลกภายนอกเท่านั้น
เครดิต boredpanda.com
